“เฟทโก้” ชี้ การเมืองปะทุ กระทบตลาดทุนน้อย เลือกตั้งเร็วขึ้นไม่ใช่ปัจจัยลบ

ข่าวล่าสุด

“ประธานเฟทโก้” ชี้ การเมืองร้อนแรงขึ้น กระทบบรรยากาศการลงทุนหุ้นน้อย เหตุ นักลงทุนให้น้ำหนักการฟื้นตัวเศรษฐกิจ-ปัจจัยต่างประเทศมากกว่า เชื่อ เลือกตั้งเร็วขึ้นไม่ใช่ปัจจัยลบ ด้านนักลงทุนรายใหญ่ “เสี่ยป๋อง” แม้ยุบสภา เชื่อดัชนีไม่ผันผวน เหตุตลาดตอบรับรู้ไปแล้ว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวว่า จากประเด็นการเมืองที่มีความร้อนแรงขึ้นขณะนี้ เชื่อจะมีผลกระทบไม่มากต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนไทย

ทั้งนี้เพราะ นักลงทุนให้ความสำคัญกับปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปัจจัยต่างประเทศ เรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ มากกว่า ป้จจัยการเมืองในประเทศ

 

สำหรับเรื่องการเลือกตั้งนั้น เชื่อว่าทุกคนคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งหากมีการเลือกตั้งเร็วขึ้น ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นปัจจัยลบ เพราะ ประชาชนอยากที่จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ซึ่งก็เป็นปกติของรัฐบาลที่อยู่มานาน โดยเป็นแบบนี้ทั้งโลก เพราะคนอยากได้ทิศทางนโยบาย ทีมงานใหม่ ๆ ส่วนผลด้านบวกจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ต้องติดตามกันต่อว่า ผลการเลือกตั้งแล้วใครจะมา

“นักลงทุนให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของศรษฐกิจมากกว่าการเมือง และขณะนี้ การแพร่ระบาดของโอมิครอนไม่รุนแรง โดยเชื่อว่าหากประเทศไทยมีการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่องชาติได้ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น และเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นมากกว่าปัจจัยทางการเมือง ”

นายวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่เจ้าของพอร์ตระดับพันล้านบาทที่มีสไตล์ลงทุนแบบ Technical กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.ของพรรคกว่า 20 คนเตรียมจะแถลงลาออกจาก ส.ส.และ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐนั้น ในมุมมองส่วนตัวมองว่า หากเสถียรภาพของรัฐบาลมีความไม่มั่นคง และไม่ชัดเจน ย่อมส่งผลถึงบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เนื่องจากตลาดหุ้นและนักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน

โดยตนเองยอมรับว่าช่วงเช้าวานนี้ (20 ม.ค.) มีความกังวลใจว่า ตลาดหุ้นเปิดตลาดจะผันผวนหนัก แต่พอเปิดตลาดมากลับพบว่าตลาดหุ้นไม่เป็นเช่นนั้น ดัชนี SET INDEX ปรับตัวเพิ่ม ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะบรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง ส่งผลทำให้บรรยากาศลงทุนในหุ้นไทยไม่ผันผวนมาก

อย่างไรก็ตาม หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ บรรยากาศลงทุนคงไม่ผันผวน เพราะตลาดหุ้นรับรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งระหว่างการเลือกตั้งใหม่ก็คงไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะทุกคนพุ่งเป้ากลับการหาเสียงกัน

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business